"ทรงเบื่อหน่ายกามคุณ"
เมื่อทรงตั้งพระทัยเช่นนั้นแล้ว ในราตรีนั้น ทรงเสด็จบรรทมแต่หัวค่ำ ไม่ทรงใยดีในการขับประโคมด้วยดุริยางค์ดนตรีของพวกราชกัญญาทั้งหลาย ที่ประจงจัดถวายบำรุงบำเรอทุกประการ
เมื่อพระองค์ทรงตื่นบรรทมในเวลาดึกสงัด ได้ทอดพระเนตรเห็นนางบำเรอเหล่านั้น นอนหลับเกลื่อนอยู่ภายในปราสาทซึ่งสว่างด้วยแสงประทีปโคมไฟ บางนางอ้าปากกัดฟัน น้ำลายไหล บางนางผ้าหลุด บางนางกอดพิณ บางนางก่ายเปิงมาง บางนางบ่นละเมอนอนกลิ้งไปมา ภาพที่ปรากฏแก่พระองค์ประดุจซากศพอันทิ้งอยู่ในป่าช้า ปราสาทอันงามวิจิตรแต่ไหนแต่ไรมา ได้กลายเป็นป่าช้าปรากฏแก่พระองค์ในขณะนั้น เป็นการเพิ่มกำลังการดำริในการออกบรรพชาในเวลานั้นยิ่งขึ้นอีก
ทรงดำริการบรรพชาเป็นทางที่ห่างกามคุณอันทำให้ลุ่มหลงและมัวเมา เป็นช่องทางที่จะบำเพ็ญปฏิบัติให้เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น ทำชีวิตให้มีผลไม่เป็นหมัน ครั้นทรงตกลงพระทัยเช่นนั้นแล้วก็เตรียมแต่งพระองค์เพื่อเตรียมการเสด็จไป รับสั่งเรียกนายฉันนะอำมาตย์ให้เตรียมผูกม้ากัณฐกะเพื่อเสด็จออกในราตรีนั้น
|