"พระราหุลราชโอรสประสูติ"

เมื่อเสด็จกลับเข้าสู่พระราชวังภายหลังจากการเสด็จประพาสอุทยานที่ทรงเห็นเทวทูตทั้ง ๔ คือ นักบวช นั้นด้วย จนตัดสินพระทัยว่าจะเสด็จออกบวชแน่นอนแล้ว ก็เสด็จด้วยรถม้าพระที่นั่ง ดังปฐมสมโพธิพรรณนาไว้ว่า "เทียมด้วยมงคลวรสินธพทั้ง ๔ มีสีดังดอกโกมุทปทุมบุปผาชาติ(ดอกบัวสีแดง)" เสด็จไปถึงพระราชอุทยาน

เมื่อเสด็จไปถึงเจ้าชายสิทธัตถะซึ่งแวดล้อมไปด้วยคณานางฯกัญญาก็เสด็จลงสรงสนานในสระโบกขรณี ที่เรียงรายระดาดาดด้วยเบญจปทุมชาติ

ทรงเสด็จพระราชสำราญอยู่ในพระราชอุทยานจนเกือบเย็นค่ำ จึงมีพนักงานจากพระราชสำนักซึ่งพระเจ้าสุทโธทนะรับสั่งให้นำข่าวมาทูลให้ทรงทราบว่า พระนางพิมพาราชเทวีได้ประสูติพระราชโอรส เมื่อทราบข่าวนั้นทรงเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยเกิดกับพระองค์มาก่อน คือ ความรักลูกยิ่งนัก ความรักนั้นเกิดขึ้นแล้ว หนักหน่วงในพระทัย ผูกมัดพระทัยยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เจ้าชายสิทธัตถะจึงเปล่งพระวาจาอุทานว่า

     “ราหุลํ ชาต บ่วงเกิดขึ้นแล้ว พนฺธนํ ชาต เครื่องผูกพันเกิดขึ้นแล้ว”

เป็นเหตุให้พระราชโอรสได้รับการขนานพระนามว่า “ราหุล” หมายถึง “บ่วง” ในคืนนั้นได้มีการจัดเฉลิมฉลองขึ้นในปราสาท มีการบรรเลงดนตรีและฟ้อนรำเป็นที่รื่นเริง แต่เจ้าชายสิทธัตถะนั้นมิปรารถนาความรื่นรมย์รีบเสด็จเข้าสู่ที่บรรทม