"อสิตดาบส"
ทำนายมหาปุริสลักษณะพระราชกุมาร


ในครั้งนั้นมีดาบสผู้หนึ่งนามว่า กาฬเทวิล แต่มหาชนโดยทั่วไปเรียกว่า อสิตะหรืออสิตดาบส ผู้ซึ่งบำเพ็ญจนสำเร็จฌานสมาบัติ ๘ มีฤทธิ์มากอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ วันหนึ่งได้เหาะไปยังดาวดึงส์เทวโลก ได้ยินเหล่าเทพยดากล่าวสาธุการที่พระโพธิสัตว์ลงมาจุติเป็นโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ ซึ่งพระดาบสเป็นผู้มีความคุ้นเคยและเป็นที่นับถือของราชวงศ์ศากยะ เมื่อทราบข่าวการประสูติจึงมาขอเข้าเฝ้า

พระเจ้าสุทโธทนะจึงแต่งพระกุมารเข้ามาเพื่อไหว้พระดาบส แต่พระบาทของพระกุมารก็หันกลับไปประดิษฐานอยู่ ณ เกล้ามวยผมของพระดาบส พระดาบสทราบในทันทีว่าพระกุมารคือพระโพธิสัตว์มาจุติ จึงประคองอัญชลีเคารพพระกุมาร พระบิดาเห็นความมหัศจรรย์ดังนั้นก็ทรงไหว้พระโอรสตามอสิตดาบส ครั้นเห็นลักษณะของพระราชกุมารต้องตามตำรามหาบุรุษลักษณะ

ในร่างกายของผู้ที่เป็นพระมหาบุรุษต้องสมบูรณ์ด้วยลักษณะสำคัญ ๓๒ ประการ เรียกว่ามหาปุริสลักษณะ เช่น มีรอยพระบาทเป็นรูปจักรและรูปมงคลอื่น ๆ เป็นต้น และสมบูรณ์ด้วยลักษณะปลีกย่อยอีก ๘๐  ซึ่งเรียกว่าอสีตยานุพยัญชนะ จึงทำนายเป็น ๒ ประการคือ

คำทำนาย ๒ ประการของอสิตดาบส

  1. ถ้าอยู่ครองราชสมบัติ จะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ
  2. ถ้าออกบวช จะได้เป็นศาสดาเอกของโลก

เมื่อถวายการพยากรณ์แล้วอสิตดาบสได้ใช้ทิพยญาณตรวจดูก็รู้ว่าพระโพธิสัตว์จะตรัสรู้ในอนาคต ครั้นทราบแล้วก็ดีใจ ครั้นตรวจดูอนาคตเบื้องหน้าก็ทราบว่าตนจะมิได้มีชีวิตอยู่เพื่อเฝ้ารับพระโอวาทธรรมก็ร้องไห