"ปัญจมหาวิโลกนะ ๕ ประการ"
เมื่อพระองค์ได้รับการกราบทูลอัญเชิญจากท้าวมหาพรหมและเหล่าเทวราชในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น พระองค์ทรงพิจารณา ปัญจมหาวิโลกนะ ได้แก่การ พิจารณาถึงสิ่งสำคัญ ๕ ประการ หรือ กาลสมัยอันสมควรทั้ง ๕ ประการ ดังนี้
- กาลเวลา
- ทวีป
- กาลประเทศ
- ราชตระกูล
- พระมารดา
- กาลเวลา
คือ กาลเวลาแห่งอายุของมนุษย์ คือ ถ้ามนุษย์มีอายุมากเกินแสนปีขึ้นป หรือ ต่ำกว่าร้อยปีลงมา ก็ไม่ใช่กาลที่จะลงมาตรัสรู้ เพราะยุคสมัยที่มนุษย์อายุมาก เกินไปก็ไม่อาจเห็นพระไตรลักษณ์ หรือหากอายุสั้นเกินไปก็มีกิเลสหนามาก ไม่อาจเห็นธรรม แต่ในยุคนี้เป็นยุคที่มนุษย์มีอายุร้อยปี จึงเป็นกาลที่จะลงมาตรัสรู้ได้
- ทวีป ทรงเห็นว่าชมพูทวีปเป็นทวีปที่เหมาะสมที่จะลงมาตรัสรู้ เหตุนี้พระบรมโพธิสัตว์ซึ่งบังเกิดเป็นสันดุสิตเทวราช เสวยทิพยสมบัติอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต เลือกลงมาจุติในชมพูทวีป เพราะถือเป็นทวีปที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในยุคนั้น พระพุทธเจ้าทั้งปวงในอดีตล้วนประสูติในมัชฌิมประเทศ และกรุงกบิลพัลดุ์แคว้นสักกะนั้น ก็ตั้งอยู่ในมัชฌิมประเทศแห่งชมพูทวีป
- กาลประเทศ
ทรงเห็นว่า มัชฌิมประเทศ คือท้องถิ่นร่วมกลางชมพูทวีป ซึ่งบัดนี้อยู่ในอินเดีย ปากีสถานเป็นส่วนมาก เลยเข้าไปในเนปาลบ้าง เช่น สถานที่ประสูติอยู่ในเนปาล เป็นสถานที่เหมาะที่จะลงมาตรัสรู้
- ราชตระกูล
ทรงเห็นวงศ์ ศากยราชตระกูล และพระเจ้าสุทโธทนะจะทรงเป็นพระราชบิดาได้
- พระราชมารดา
คือ ทรงเห็นพระนางสิริมหามายา มีศีลและบารมีธรรมที่ได้ทรงอบรมบ่มบำเพ็ญเพียรสั่งสมมาเป็นเวลา ๑ อสงไขย และนับแต่นี้จะมีพระชนม์ชีพเหลืออีกเพียง ๑๐ เดือนกับอีก ๗ วัน ซึ่งสมควรเป็นพระมารดาได้ ทั้งจะมีพระชนม์สืบไปจากเวลาที่พระโอรสประสูติเพียง ๗ วัน สัตว์อื่นไม่อาจอาศัยคัพโภทร(ครรภ์)
บังเกิดได้อีก อีกทั้งพระนางสิริมหามายาเทวีก็เป็นผู้รักษาเบญจศีลาจารวัตรอันบริสุทธิ์
ส่วนสาเหตุที่ถือกำเนิดในวรรณะกษัตริย์แทนที่จะเป็นวรรณะพราหมณ์ เหล่าบูรพาจารย์
ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า พราหมณ์กับวรรณะกษัตริย์แข่งขันกันอยู่ว่าใครสูงกว่ากัน และวรรณะพราหมณ์มักชนะอยู่เสมอเพราะการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องไตรเพท คือได้เรียน
ศิลปวิทยา และได้รับความเคารพนับถือจากคนทุกวรรณะ ครั้นถึงสมัยพุทธกาลเหล่าวรรณะกษัตริย์จึงเริ่มอยู่เหนือวรรณะพราหมณ์ เนื่องจากได้ศึกษาพระเวท
จนเจนจบ และออกบรรพชาแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง จนในที่สุดมีความรู้เหนือ วรรณะพราหมณ์และเอาพวกพราหมณ์เป็นบริวารได้
|