"พระบารมี ๑๐ ทัศ บารมี ๓๐ ทัศ "
พระบารมี ๑๐ และบารมี ๓๐
พระบารมี คือ ธรรมที่นำไปให้ถึงฝั่งพระนิพพาน หมายความว่า เมื่อพระบรมโพธิสัตว์เฝ้าบำเพ็ญธรรมจนเต็มครบบริบูรณ์เต็มที่แล้วก็จะเป็นสะพาน
นำพระองค์ท่านให้บรรลุถึงฝั่ง คือ ได้ตรัสพระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ และเสด็จ
ดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพาน ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พระบารมีธรรม ซึ่งพระบารมีธรรม
นั้นมิใช่จะบำเพ็ญเพียง ๒๐-๓๐ ชาติเท่านั้น แต่ต้องบำเพ็ญเป็นเวลายาวนานหลาย
อสงไขย นับพระชาติที่เกิดไม่ถ้วน ดังนั้นพระบารมีที่สร้างแต่ละพระชาติจึงไม่เท่ากัน
คือ บางพระชาติก็สร้างอย่างธรรมดาปกติ บางพระชาติก็สร้างอย่างอุกฤษฏ์สูงสุด ฉะนั้นจึงจำแนกพระบารมีเหล่านี้ออกเป็นตรียางค์ คือ เป็นองค์สาม โดยจัดเป็น
พระบารมีอย่างธรรมดาประเภทหนึ่ง พระบารมีอย่างกลาง และพระบารมีอย่างสูงสุด
อุกฤษฏ์ ดังตัวอย่างพระบารมีประเภท ทาน เมื่อจำแนกออกเป็นตรียางค์ ก็กำหนด
โดยประเภทของทาน ดังต่อไปนี้
- ทานที่บำเพ็ญโดยสถานประมาณเป็นปกติธรรมดา บริจาคธนสารทรัพย์สมบัติน้อยใหญ่ ถึงแม้จะมากมายเพียงใดก็ดี จัดเป็นบารมีประเภทธรรมดา เรียกชื่อว่า ทานบารมี
- ทานที่บำเพ็ญยิ่งขึ้นไปกว่านั้น คือ ถึงกับบริจาคอวัยวะเลือดเนื้อในร่างกาย
จัดเป็นพระบารมีประเภทมัชฌิมาปานกลาง เรียกชื่อว่า ทานอุปบารมี
- ทานที่บำเพ็ญยิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีก คือถึงกับต้องบริจาคชีวิตให้เป็นทาน
นับเป็นการบริจาคอย่างใหญ่หลวงอุกฤษฏ์ นี้จัดเป็นพระบารมีประเภทสูงสุด อย่างยิ่งเรียกชื่อว่า ทานปรมัตถบารมี
แม้พระบารมีอย่างอื่นก็จำแนกออกเป็นพระบารมีละ ๓ ประเภท ซึ่งพระบารมีที่เป็น
องคธรรมมีอยู่ ๑๐ ประเภท เมื่อจำแนกออกเป็นองค์ละ ๓ พระบารมีจึงรวมเป็น
พระสมติงสบารมี คือ พระบารมี ๓๐ ถ้วนพอดี ดังจำแนกออกไปตามรายชื่อพระบารมี
ดังนี้ คือ
บารมี ๑๐ ทัศ
- ทานบารมี บำเพ็ญด้วยการให้สิ่งที่ควรให้
- ศีลลารมี บำเพ็ญศีลให้ครบบริบูรณ์
- เนกขัมมบารมี การออกจากกามซึ่งต้องบำเพ็ญให้ถึงที่สุด
- ปัญญาบารมี บำเพ็ญด้วยการไต่ถามจากผู้รู้
- วิริยบารมี บำเพ็ญด้วยการทำความเพียรอย่างถึงที่สุด
- ขันติบารมี บำเพ็ญด้วยการอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด
- อธิษฐานบารมี บำเพ็ญเด้วยการตั้งจิตไว้ให้มั่นคง
- สัจบารมี บำเพ็ญด้วยการรักษาวาจาสัตย์อย่างถึงที่สุด
- เมตตาบารมี บำเพ็ญด้วยการมีเมตตาอย่างถึงที่สุด
- อุเบกขาบารมี บำเพ็ญด้วยการวางเฉย คือมีใจเสมอกัน ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องดีหรือไม่ดีไม่ว่าจะมีลาภหรือเสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ
สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์
รวมลงเป็นบารมี ๓๐ ทัศ
- ทานบารมี
- ศีลบารมี
- เนกขัมมบารมี
- ปัญญาบารมี
- วิริยบารมี
- ขันติบารมี
- สัจบารมี
- อธิษฐานบารม
- เมตตาบารมี
- อุเบกขาบารมี บารมี ๑-๑๐ จัดเป็นบารมีประเภทธรรมดา
- ทานอุปบารมี
- ศีลอุปบารมี
- เนกขัมมอุปบารมี
- ปัญญาอุปบารมี
- วิริยอุปบารมี
- ขันติอุปบารมี
- สัจอุปบารมี
- อธิษฐานอุปบารมี
- เมตตาอุปบารมี
- อุเบกขาอุปบารมี บารมี ๑๑-๒๐ จัดเป็นบารมีประเภทปานกลาง
- ทานปรมัตถบารมี
- ศีลมัตถบารมี
- เนกขัมมปรมัตถบารมี
- ปัญญาปรมัตถบารมี
- วิริยปรมัตถบารมี
- ขันติปรมัตถบารมี
- สัจปรมัตถบารมี
- อธิษฐานปรมัตถบารม
- เมตตาปรมัตถบารมี
- อุเบกขาปรมัตถบารมี บารมี ๒๑-๓๐ จัดเป็นบารมีประเภทอุกฤษ์สูงสุด
รวมเป็นพระบารมีธรรมที่พระโพธิสัตว์ผู้ปรารถนาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จักต้องบำเพ็ญให้ครบบริบูรณ์เต็มที่ ๓๐ ถ้วน ฉะนั้นจึงเรียกเป็นศัพท์ว่า
พระสมติงสบารมี หรือบารมี ๓๐ ทัศ ด้วยเหตุนี้
|