"ติรัจฉานภูมิ "

ติรัจฉานภูมิ

ติรัจฉานภูมิ คือ โลกของสัตว์ผู้ไปโดยขวาง คือเวลาจะไปไหนมาไหน ต้องไปโดยอาการขวาง ลำตัวต้องคว่ำอกไป เช่น สุนัข แมว หนู ไก่ เป็ด งู ปลา เป็นต้น นอกจากร่างกายต้องไปอย่างขวาง ๆ แล้ว จิตใจยังขวางอีกด้วย คือขวางจากมรรคผลนิพพาน แม้จะทำความดีเท่าไรก็ไม่สามารถบรรลุมรรคผล นิพพาน ในชาตินั้นได้ อย่างมากที่สุดก็เพียงไปสวรรค์เท่านั้น

ติรัจฉานภูมิ หรือโลกของสัตว์เดรัจฉานนี้ ไม่ต้องเสวยทุกขเวทนาแรงกล้าอย่างสัตว์นรก เปรต อสุรกาย ยังพอจะมีความน่าชื่นชมยินดีอยู่บ้าง เพราะมีอกุศลเบาบาง แม้จะต้องประสบความลำบากอย่างไร ก็ยังมีความน่ายินดีอยู่ ๓ ประการ คือ การกิน การนอน และการสืบพันธุ์ ด้วยเหตุนี้ ติรัจฉานภูมิจึงมีความหมายได้อีกอย่างหนึ่งว่า เป็นโลกของสัตว์ที่มีความยินดีในเหตุ ๓ ประการ

๑. อปทติรัจฉาน คือ สัตว์เดรัจฉานที่ไม่มีเท้า ได้แก่ งู ปลา ไส้เดือน เป็นต้น
๒.ทวิปทติรัจฉาน คือ สัตว์เดรัจฉานที่มี ๒ เท้า ได้แก่ ไก่ เป็ด แร้ง กา เป็นต้น
๓.จตุปทติรัจฉาน คือ สัตว์เดรัจฉานที่มี ๔ เท้า ได้แก่ สุนัข แมว ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น ๔.พหุปทติรัจฉาน คือ สัตว์เดรัจฉานที่มีมากกว่า ๔ เท้าขึ้นไป ได้แก่ มด ปลวก ตะขาบ เป็นต้น

สัตว์เดรัจฉานที่มีชีวิตอยู่ในภูมิเดียวกับมนุษย์ เราสามารถเห็นได้ด้วยตาเนื้อ ไม่เหมือนกับสัตว์ใน อบายภูมิอื่น ๆ เช่น เปรต อสุรกาย ที่เป็นอทิสสมานกาย คือมีกายไม่ปรากฏ สัตว์เดรัจฉานไม่มีที่อยู่ของตน โดยเฉพาะ เที่ยวไป ๆ มา ๆ อยู่บนพื้นปฐพีนี้ มีความเป็นอยู่ลำบากกว่ามนุษย์มากมาย มีภัยรอบด้าน ทั้งภัยจากมนุษย์ ภัยจากสัตว์ใหญ่อื่น ๆ ภัยจากความอดอยาก ภัยจากที่อยู่อาศัย เป็นต้น

ส่วนสัตว์เดรัจฉานอีกประเภทหนึ่ง เป็นสัตว์เดรัจฉานชั้นดี อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เป็นพวก กายละเอียด ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตามนุษย์

เหตุที่ทำให้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ส่วนใหญ่มาจากกิเลสตระกูลโมหะ คือความไม่รู้ตามความเป็นจริง เช่น หลงยึดติดกับบุคคล หรือทรัพย์สมบัติ เป็นต้น บ้างก็เพราะเคยทำอกุศลกรรมไว้ในชาติก่อน เมื่อพ้นกรรมจากนรกแล้ว เศษกรรมก็นำให้มาเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือบางพวกเมื่อใช้กรรมในนรกแล้ว ต้องไปเกิดเป็นเปรตและอสุรกายก่อน เมื่อเศษกรรมเบาบางลงจึงมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน และมักจะเกิด เป็นสัตว์เดรัจฉานซ้ำ ๆ อยู่หลายชาติ เป็นชนิดเดิมบ้าง บางทีก็เปลี่ยนชนิด มีโอกาสทำกุศลกรรมน้อยมาก


ขอบคุณข้อมูลจาก : /book.dou.us/doku