
"โครงสร้างจักรวาล
ทางพุทธศาสนา
"
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบความจริงเรื่องจำนวนของจักรวาลนี้เมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปี แล้วว่าจักรวาลนี้มิได้มีเพียงจักรวาลเดียว แต่มีจักรวาลมากมายนับไม่ถ้วน
เรียกว่า
อนันตจักรวาล ซึ่งตรงกับการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ที่มีการค้นพบเมื่อไม่กี่สิบปี
ที่ผ่านมาว่า จำนวนของจักรวาลมีมากกว่าหนึ่งจักรวาลเช่นกัน น่าอัศจรรย์ที่พระสัมมา สัมพุทธเจ้า ทรงสามารถบอกเราได้อย่างแม่นยำว่าจักรวาลมีจำนวนมากมายมหาศาล ตั้งแต่เมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปีมาแล้วทั้งที่ในขณะนั้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถบอก อะไรแก่เราในเรื่องนี้ได้เลยซึ่งรายละเอียดจำนวนของจักรวาลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ค้นพบมีกล่าวไว้ใน จูฬนีสูตร มีใจความโดยสรุปว่า
จักรวาลแบบพุทธ ที่ยกมาจากพระสูตร จูฬนีสูตร(บางส่วน)
......
พระอานนท์.. ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าแต่พระสุคต บัดนี้เป็นกาลเวลาแห่งเทศนา
ที่พระองค์จะพึงตรัส ภิกษุทั้งหลายได้สดับธรรมเทศนาของ
พระผู้มีพระภาคแล้ว จักทรงจำไว้ ฯ
พระผู้มีพระภาค.. ดูกรอานนท์ ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี
เราจักกล่าว พระอานนท์ทูลรับสนองพระผู้มีพระภาคแล้ว
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
ดูกรอานนท์.. จักรวาลหนึ่ง มีกำหนดเท่ากับโอกาสที่พระจันทร์พระอาทิตย์โคจร ทั่วทิศสว่างไสวรุ่งโรจน์ โลกมีอยู่พันจักรวาลก่อน
ในโลกพันจักรวาลนั้น มีพระจันทร์พันดวง มีอาทิตย์พันดวง
มีขุนเขาสิเนรุพันหนึ่ง มีชมพูทวีปพันหนึ่ง มีอปรโคยานทวีปพันหนึ่ง มีอุตตรกุรุทวีปพันหนึ่งมีปุพพวิเทหทวีปพันหนึ่ง มีมหาสมุทรสี่พัน
มีท้าวมหาราชสี่พัน มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาพันหนึ่ง
มีเทวโลกชั้นดาวดึงส์พันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นยามาพันหนึ่ง
มีเทวโลกชั้นดุสิตพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นนิมมานรดีพันหนึ่ง
มีเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัสตีพันหนึ่งมีพรหมโลกพันหนึ่ง
ดูกรอานนท์ นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างเล็กมีพันจักรวาล
โลกคูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุ อย่างกลางมีล้านจักรวาลนั้น นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณ แสนโกฏิจักรวาล
ดูกรอานนท์.. ตถาคตมุ่งหมายอยู่ พึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล ให้รู้แจ้งได้ด้วยเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่มุ่งหมาย ฯ
พระอานนท์.. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาคพึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ ประมาณแสนโกฏิจักรวาล ให้รู้แจ้งด้วยพระสุรเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้
เท่าที่พระองค์ทรงมุ่งหมายอย่างไร ฯ
ดูกรอานนท.์. พระตถาคตในโลกนี้ พึงแผ่รัศมีไปทั่วโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณ
แสนโกฏิจักรวาลเมื่อใด หมู่สัตว์พึงจำแสงสว่างนั้นได้เมื่อนั้น
พระตถาคตพึงเปล่งพระสุรเสียงให้สัตว์เหล่านั้นได้ยิน
พระตถาคตพึงทำให้โลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล
ให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง หรือพึงทำให้รู้แจ้งได้
เท่าที่พระองค์ทรงมุ่งหมาย ด้วยอาการเช่นนี้แล ฯ
..........ฯ จบอานันทวรรคที่ ๓...........
จากพระสูตรที่ว่า โลกมีอยู่พันจักรวาลก่อน ในโลกพันจักรวาลนั้น มีพระจันทร์พันดวง มีอาทิตย์พันดวง มีขุนเขาสิเนรุพันหนึ่ง มีชมพูทวีปพันหนึ่ง มีอปรโคยานทวีปพันหนึ่ง มีอุตตรกุรุทวีปพันหนึ่งมีปุพพวิเทหทวีปพันหนึ่ง มีมหาสมุทรสี่พัน มีท้าวมหาราชสี่พัน มีเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นดาวดึงส์พันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นยามาพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นดุสิตพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นนิมมานรดีพันหนึ่ง มีเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัสตีพันหนึ่งมีพรหมโลกพันหนึ่ง ดูกรอานนท์ นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างเล็กมีพันจักรวาล โลกคูณโดยส่วนพันแห่งโลกธาตุ อย่างกลางมีล้านจักรวาลนั้น นี้เรียกว่าโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณ แสนโกฏิจักรวาล
ซึ่งในสมัยหนึ่งพระอานนท์เข้าไปกราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงเรื่องสาวกของ
พระสิขีพุทธเจ้า ชื่อ พระอภิภู ที่ยืนอยู่บนพรหมโลกแล้วสามารถเปล่งเสียงได้ไกลถึง ๑,๐๐๐ โลกธาตุ
พระอานนท์ได้ทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
"พระองค์สามารถเปล่งพระสุรเสียงได้ไกลเท่าไร?"
พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า "จะให้ไกลเท่าไรก็ได้ตามพุทธประสงค์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องโลกธาตุขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่
๐ สหัสสีจูฬนิกาโลกธาตุ (โลกธาตุอย่างเล็กมี ๑,๐๐๐ จักรวาล)
๐ ทวิสหัสสีมัชฌิมิกาโลกธาตุ (โลกธาตุ ขนาดกลางมีล้านจักรวาล) และ
๐
ติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ (โลกธาตุอย่างใหญ่มีแสนโกฏิจักรวาล)
ซึ่งพระองค์จะเปล่งพระสุรเสียงได้ไกลถึงติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุหรือมากกว่านั้นก็ได้ ตามพุทธประสงค์
จากพระสูตรนี้ทำให้เราทราบว่า จักรวาลไม่ได้มีเพียงจักรวาลที่เราอาศัยอยู่เพียงจักรวาล เดียวเท่านั้น แต่ยังมีจักรวาลอื่น ๆ อีกจำนวนมากมายมหาศาลเป็นแสนโกฏิจักรวาล
อนันตจักรวาล นอกจากนี้พระพุทธองค์ยังจัดกลุ่มของจักรวาลให้ละเอียดออกไปอีก
ซึ่งการแบ่งกลุ่มจักรวาลนี้เราจะใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์รือความรู้จากการ
จินตนาการด้วยสมองของมนุษย์ที่มีสติปัญญาจำกัดไม่สามารถจะไปค้นคว้าหาคำตอบนี้ ได้อย่างชัดเจน ต้องอาศัยผู้ที่ฝึกฝนอบรมจิตมาดีแล้วอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่เห็น จริงแล้วจัดกลุ่มจักรวาลออกเป็น ๓ กลุ่ม คือ
๑. กลุ่มจักรวาลขนาดเล็ก มีพันจักรวาล
๒. กลุ่มจักรวาลขนาดกลาง มีล้านจักรวาล
๓. กลุ่มจักรวาลขนาดใหญ่ มีแสนโกฏิจักรวาล
นอกจากนี้เรายังทราบว่า มนุษย์ไม่ได้อยู่เฉพาะในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้
หรือในจักรวาลนี้ เท่านั้น แต่เรายังมีเพื่อนที่ต่างโลกต่างจักรวาลที่มีมนุษย์และสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราอีก มากมาย

องค์ประกอบของจักรวาลทางพุทธศาสนา
ดังได้ทราบแล้วว่าจำนวนของจักรวาลมีมากมายนับไม่ถ้วน โครงสร้างของจักรวาล ซึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโครงสร้างของจักรวาลหลาย ๆ จักรวาลไว้ว่ามีส่วน ประกอบอย่างเดียวกันและเหมือนกันทุกประการ เรื่องนี้มีกล่าวไว้ใน จูฬนีสูตร เช่นกันว่า
อานนท์ ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์แผ่รัศมี ส่องแสงทำให้สว่างไปทั่วทิศตลอด
ที่มีประมาณเท่าใด โลกมีเนื้อที่เท่านั้น จำนวน ๑,๐๐๐ ใน ๑,๐๐๐
โลกนั้นมีองค์ประกอบ
๐ ดวงจันทร์
๐ ดวงอาทิตย์
๐ ภูเขาสิเนรุ อย่างละ ๑,๐๐๐ มีส่วนประกอบคือ
- ชมพูทวีป
- อปรโคยานทวีป
- อุตตรกุรุทวีป
- ปุพพวิเทหทวีป อย่างละ ๑,๐๐๐ มี
- มหาสมุทรมหาราช
อย่างละ ๑,๐๐๐ มี
- สวรรค์ ๖ ชั้น และ
- พรหมโลก ชั้นละ ๑,๐๐๐
จากข้อความในพระสูตรนี้ ทำให้ทราบว่าขอบเขตของจักรวาลมีขนาดกว้างใหญ่เท่าไร
แม้จะไม่ได้ระบุเป็นตัวเลข แต่ก็ทำให้เราเห็นภาพรวมว่าจักรวาลนั้นมีขอบเขตที่กว้างขวาง มากเท่ากับรัศมีของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์แผ่ออกไปถึง ถ้าเราสามารถวัดระยะทาง ของเส้นผ่าศูนย์กลางหรือรัศมีของพระจันทร์และพระอาทิตย์ได้ เราก็สามารถทราบจำนวน ความกว้างของจักรวาลได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์
และในจักรวาลที่มีจำนวนมากมหาศาลนั้น องค์ประกอบของจักรวาลมีเหมือนกันหมด
ทุกประการ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ เขาสิเนรุ ทวีปทั้ง ๔
คือ ชมพูทวีป อปรโคยานทวีป ปุพพวิเทหทวีป และอุตตรกุรุทวีป มหาสมุทรทั้ง ๔
สวรรค์ ๖ ชั้น และ พรหมโลก ถึงแม้ว่าในพระสูตรนี้มิได้กล่าวถึงอรูปพรหม และ อบายภูมิก็ตาม แต่ในที่นี้ หมายรวมถึงอรูปพรหมและอบายภูมิด้วย ดังที่มีปรากฏอยู่ทั่วไปในพระไตรปิฎกว่า อรูปพรหมและอบายภูมิเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นองค์ประกอบ ของจักรวาลโดยภาพรวม
ขอบคุณข้อมูลจาก : /book.dou.us/doku
|